เนื้อหา
สวิตช์แรงดันเครื่องปรับอากาศของรถจะเปิดและปิดคอมเพรสเซอร์ซ้ำ ๆ เมื่อความดันของสารทำความเย็นต่ำกว่าระดับที่ยอมรับได้ซึ่งจะป้องกันคอมเพรสเซอร์ไม่ให้เสียหาย สารทำความเย็นไม่เสื่อมสภาพหรือระเหยออกไปดังนั้นระบบปรับอากาศที่รั่วเท่านั้นจึงมีสารทำความเย็นอยู่ในระดับต่ำ การรั่วไหลจากระบบปรับอากาศรถยนต์ที่มีระดับตู้เย็นต่ำต้องได้รับการซ่อมแซมก่อนที่ระบบจะชาร์จใหม่ อาจเป็นไปได้ว่าการขาดความเย็นของระบบปรับอากาศอาจเกี่ยวข้องกับสารทำความเย็นในระดับต่ำ
ขั้นตอนที่ 1
ถอดฟิวส์ออกจากเครื่องปรับอากาศ ฟิวส์ที่อยู่ในสภาพดีไม่มีรอยไหม้ดำ ในการทดสอบฟิวส์ให้เชื่อมต่อมัลติมิเตอร์เข้ากับการกำหนดค่าโอห์มและวางสายบนขั้วต่อแต่ละขั้ว มิเตอร์ต้องระบุความต่อเนื่อง มิฉะนั้นให้เปลี่ยนฟิวส์
ขั้นตอนที่ 2
ติดตั้งมาตรวัดน้ำหล่อเย็นบนวาล์วบริการที่เกี่ยวข้องซึ่งอยู่บนท่อน้ำหล่อเย็นขนาดใหญ่ในห้องเครื่อง ตรวจสอบว่าระดับสารทำความเย็นของระบบเพียงพอ (ประมาณ 56 psi เมื่อปิดระบบ) มิฉะนั้นให้แก้ไขการรั่วไหลและเติมน้ำหล่อเย็นลงในระบบ
ขั้นตอนที่ 3
ถอดปลั๊กไฟฟ้าออกจากสวิตช์แรงดันซึ่งอยู่ในแนวเดียวกับวาล์วบริการและมีสายไฟแรงดันต่ำเชื่อมต่ออยู่ ยกแถบล็อคที่ปลั๊กก่อนถอดออก
ขั้นตอนที่ 4
วางสายมัลติมิเตอร์ลงในช่องเปิดของสวิตช์แรงดันโดยยังคงตั้งค่าเป็นโอห์ม มิเตอร์ควรแสดงความต่อเนื่องหากระบบมีสารทำความเย็นในระดับที่ยอมรับได้ มิฉะนั้นให้เปลี่ยนสวิตช์ความดัน
ขั้นตอนที่ 5
เปิดระบบปรับอากาศ ตรวจสอบแรงดันไฟฟ้าที่ส่งผ่านไปยังปลั๊กด้วยมัลติมิเตอร์ที่กำหนดค่าไว้สำหรับโวลต์กระแสตรง (DC) วางสายไฟหนึ่งเส้นบนโครงรถและอีกเส้นหนึ่งบนช่องเสียบทีละเส้น ช่องใดช่องหนึ่งควรแสดง 12 ถึง 14 โวลต์ มิฉะนั้นให้ซ่อมแซมระบบไฟฟ้าที่มาถึงสวิตช์แรงดัน ปิดระบบ
ขั้นตอนที่ 6
วางสายเคเบิลฉุกเฉินในช่องเปิดสองช่องบนปลั๊ก เปิดระบบปรับอากาศ หากคอมเพรสเซอร์เริ่มทำงานให้เปลี่ยนสวิตช์ความดัน ถ้าไม่มีให้ตรวจสอบรีเลย์ของคอมเพรสเซอร์ ปิดระบบ
ขั้นตอนที่ 7
ถอดสายเคเบิลฉุกเฉิน เชื่อมต่อสวิตช์ความดัน