เนื้อหา
แผลไหม้ที่หนังศีรษะที่เกิดจากสารเคมีผ่อนคลายไม่เพียง แต่เป็นผลเสียต่อรูขุมขนเท่านั้นที่ทำให้ก้านผมอ่อนแอลงและทำให้ผมร่วง แต่ยังทำให้หนังศีรษะแห้งกร้าน การยืดผมการดัดผมและการบำบัดทางเคมีอื่น ๆ มีส่วนผสมที่รุนแรงซึ่งส่วนใหญ่เป็นแอลกอฮอล์ซึ่งสามารถระคายเคืองหนังศีรษะที่บอบบางโดยเฉพาะอย่างยิ่ง รักษาอาการไหม้ของหนังศีรษะอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพโดยการลงทุนในผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมที่เหมาะสมและปฏิบัติตามกิจวัตรเพื่อสุขภาพเส้นผมทุกวัน
ขั้นตอนที่ 1
บรรเทาอาการไหม้และอาการระคายเคืองของหนังศีรษะด้วยการล้างศีรษะด้วยแชมพูอ่อน ๆ แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ต้องขจัดสเปรย์จาระบีและน้ำมันออกเนื่องจากมีแอลกอฮอล์และสารอื่น ๆ ที่ทำให้แห้ง ส่วนผสมเหล่านี้ทำให้การเผาไหม้แย่ลงและอาจทำให้ผมเสียยากที่จะย้อนกลับได้
ขั้นตอนที่ 2
ใช้ครีมนวดผมที่มีวิตามินอีซึ่งช่วยบำรุงหนังศีรษะที่แห้งและรักษาอาการไหม้จากสารเคมี ทิ้งครีมนวดผมไว้อย่างน้อย 15 นาทีโดยใช้ผ้าอุ่น
ขั้นตอนที่ 3
ปล่อยให้ผมแห้งตามธรรมชาติและหลีกเลี่ยงการใช้ไดร์เป่าผม การปล่อยให้ผมแห้งคุณจะหลีกเลี่ยงความเสียหายต่อหนังศีรษะที่เกิดจากความร้อนมากเกินไป ใช้โลชั่นบำรุงผมที่มีว่านหางจระเข้และวิตามินอีในปริมาณเท่าเหรียญแบ่งผมออกเป็นปอย ๆ แล้วทาโลชั่นกับเส้นผมและหนังศีรษะ วิตามินอีสามารถช่วยรักษาแผลไหม้ได้และว่านหางจระเข้สามารถลดอาการระคายเคืองและอาการคันได้
ขั้นตอนที่ 4
อย่าเจาะหรือขูดสะเก็ดแผลไหม้เพราะแบคทีเรียที่มักพบใต้เล็บสามารถสร้างแหล่งเพาะเชื้อได้
ขั้นตอนที่ 5
แปรงและหวีผมอย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันไม่ให้เส้นพันกันซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปอาจทำให้แผลไหม้รุนแรงขึ้นให้ใช้หวีซี่ห่างเพื่อแยกเส้นออก เริ่มต้นด้วยการหวีเบา ๆ จากปลายขึ้นไปทางศีรษะ
ขั้นตอนที่ 6
ลงทุนในครีมเผาถ้าสะเก็ดไม่หายในสองสัปดาห์ ทาครีมตามคำแนะนำบนบรรจุภัณฑ์และใช้สำลีก้าน รอจนกว่าหนังศีรษะจะหายสนิทก่อนเข้ารับการทำเคมีอีกครั้ง หากแผลไหม้กลายเป็นปัญหาเรื้อรังหลังจากใช้สารเคมีการเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผมจากธรรมชาติสามารถป้องกันการระคายเคืองในอนาคตได้