เนื้อหา
- ระบุยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาอาการลำไส้ใหญ่บวม
- ขั้นตอนที่ 1
- ขั้นตอนที่ 2
- ขั้นตอนที่ 3
- ขั้นตอนที่ 4
- ขั้นตอนที่ 5
- ขั้นตอนที่ 6
แม้ว่ายาปฏิชีวนะบางชนิดจะฆ่าแบคทีเรียที่มีประโยชน์ในลำไส้ใหญ่และทำให้เกิดอาการลำไส้ใหญ่บวม แต่ก็มียาที่ใช้เพื่อบรรเทาอาการของลำไส้ใหญ่บางรูปแบบ การใช้ยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาอาการลำไส้ใหญ่บวมขึ้นอยู่กับชนิดของอาการลำไส้ใหญ่บวม - โรคลำไส้ใหญ่อักเสบจากภูมิแพ้, โรคเยื่อบุโพรงมดลูกอักเสบ, ลำไส้ใหญ่อักเสบจากเชื้อแบคทีเรียหรืออาการลำไส้ใหญ่บวมเป็นแผล
ระบุยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาอาการลำไส้ใหญ่บวม
ขั้นตอนที่ 1
รักษาอาการลำไส้ใหญ่บวมจากแบคทีเรียด้วย trimethropine-sulfamethoxazole (TMP-SMZ, Bactrim, Septra) Sulfamethoxazole เป็นซัลโฟนาไมด์ที่กำหนดเพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในร่างกาย
ขั้นตอนที่ 2
ยาปฏิชีวนะที่จัดอยู่ในกลุ่ม fluoroquinolones ถือเป็นทางเลือกหนึ่งในการรักษาอาการลำไส้ใหญ่บวม ชื่อทางการค้าทั่วไปสำหรับ fluoroquinolones ได้แก่ Avelox, Cipro, Floxin, Levaquin, Maxaquin, Noroxin และ Tequin
ขั้นตอนที่ 3
เพิ่มยาปฏิชีวนะในวงกว้างเซฟาโลสปอรินเป็นตัวเลือกในการรักษาอาการลำไส้ใหญ่บวมเป็นแผลหรือแบคทีเรีย Ceftriaxone (Rocephin) เป็นยาปฏิชีวนะที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเนื่องจากสามารถให้ได้ทั้งโดยการฉีดหรือฉีดเข้าเส้นเลือด
ขั้นตอนที่ 4
รวมชื่อแบรนด์ของเซฟาโลสปอรินที่ใช้ในการรักษาแบคทีเรียเช่น Ancef, Ceclor, Cefotan, Duricef, Keflex, Kefzol, Mandol, Omnicef และ Zinacef
ขั้นตอนที่ 5
ใช้ยาปฏิชีวนะร่วมกับยาต้านการอักเสบเพื่อรักษาอาการลำไส้ใหญ่บวมเป็นแผล การรักษาด้วยยาปฏิชีวนะใช้เพื่อชะลอการเจริญเติบโตที่ผิดปกติของแบคทีเรียในขณะที่ยาต้านการอักเสบจะช่วยลดอาการบวมและระคายเคืองของลำไส้ใหญ่
ขั้นตอนที่ 6
คาดว่าจะใช้ vancomycin หรือ metronidazole หากอาการลำไส้ใหญ่บวมเกิดจากการใช้ยาปฏิชีวนะอื่น ๆ ยาปฏิชีวนะบางชนิดฆ่าแบคทีเรียที่ดีในลำไส้ใหญ่ซึ่งจะทำให้แบคทีเรียที่ไม่ดีเข้าครอบงำและทำให้เกิดการติดเชื้อ การติดเชื้อประเภทนี้ได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะประเภทอื่น