เนื้อหา
เมลาโทนินเป็นฮอร์โมนที่ผลิตโดยร่างกายของเราในต่อมไพเนียลและในทางเดินอาหารของเรา ฮอร์โมนนี้มีบทบาทสำคัญในการซิงโครไนซ์จังหวะ circadian และช่วยในการควบคุมวงจรการนอนหลับตื่นในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม นอกเหนือจากฟังก์ชั่นเหล่านี้เมลาโทนินยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีศักยภาพที่ช่วยปกป้องร่างกายจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ แม้ว่าเมลาโทนิสังเคราะห์จะได้รับความนิยมในฐานะอาหารเสริมเมื่อไม่นานมานี้เมลาโทนินจากธรรมชาติสามารถพบได้ในอาหารหลากหลายชนิด
น้ำมันมะกอกและมะเขือเทศเป็นแหล่งของเมลาโทนิน (รูปภาพ Eising / Photodisc / Getty)
แหล่งที่มา
อาหารทั่วไปเช่นน้ำมันมะกอกไวน์และเบียร์ก็เป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยฮอร์โมนนี้ เมลาโทนินยังพบได้ในผลไม้และผักทั่วไปเช่นมะเขือเทศเปลือกองุ่นเชอร์รี่และถั่ว แม้ว่าอาหารเหล่านี้ส่วนใหญ่จะมีเมลาโทนินในปริมาณที่ต่ำกว่าในอาหารเสริมทั่วไป แต่การรวมเอาอาหารเหล่านี้ลงในอาหารเป็นเรื่องง่ายและให้ประโยชน์ของฮอร์โมนนี้
จำนวน
การพิจารณาที่สำคัญคือร่างกายจะได้รับเมลาโทนินในปริมาณที่เพียงพอจากอาหารเพียงอย่างเดียวหรือไม่ รีวิวล่าสุดใน "วารสารวิจัยไพน์" แสดงให้เห็นถึงความเข้มข้นที่เพิ่มขึ้นของเมลาโทนิและสารต้านอนุมูลอิสระในเลือดของคนที่กินอาหารที่อุดมด้วยฮอร์โมนนั้น
ประโยชน์ด้านสุขภาพ
เมลาโทนินทำหน้าที่ต้านอนุมูลอิสระทำความสะอาดสิ่งมีชีวิตจากสารอันตรายที่ส่งเสริมการอักเสบและการแก่ชราและอาจทำให้เกิดโรคต่างๆเช่นโรคมะเร็งโรคหัวใจและหลอดเลือดและปัญหาทางระบบประสาท แม้ว่าจำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม แต่ก็มีความเห็นพ้องกันเกี่ยวกับศักยภาพของสารนี้ในฟังก์ชั่นนี้ แม้ว่าจะไม่ได้ส่งเสริมผลการรักษาที่เฉพาะเจาะจง แต่เมลาโทนินที่บริโภคเข้าไปในอาหารสามารถนำไปสู่ระดับสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อสุขภาพ
การแจ้งเตือน
เมลาโทนินจากอาหารมักจะใช้เพราะผลประโยชน์ไม่ได้เป็นเครื่องช่วยการนอนหลับ นี่คือสาเหตุที่ปริมาณการกระจายและเวลาที่เมลาโทนิกลืนกินผ่านอาหาร หากฮอร์โมนนี้ถูกใช้เป็นตัวควบคุมของรูปแบบการนอนหลับหรือเพื่อบรรเทาอาการของ jet lag แนะนำให้ใช้สารเสริมมากกว่านี้ ปรึกษาแพทย์ของคุณเสมอก่อนใช้อาหารเสริมเนื่องจากอาจมีปฏิกิริยากับยาอื่น ๆ
การพิจารณา
นอกเหนือจากการพิจารณาปริมาณเมลาโทนินที่ได้จากอาหารโดยตรงแล้วให้พิจารณาว่าการเปลี่ยนอาหารอาจส่งผลต่อความพร้อมใช้งานและการดูดซึมของฮอร์โมน ตัวอย่างเช่นการปรุงที่อุณหภูมิสูงหรือการหมักอาจส่งผลต่อปริมาณเมลาโทนินที่ได้จากอาหาร ตามหลักการแล้วอาหารที่บริโภคควรสดใหม่และไม่ควรแปรรูปเพื่อให้ได้คุณค่าทางโภชนาการสูงสุด